รู้ทัน สถานการณ์ฝุ่นขนาดเล็ก(PM 2.5) และการป้องกันอย่างถูกวิธี

ป่วย ไอ

อากาศและสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยมลพิษจากฝุ่นละอองขนาดเล็กอย่าง PM2.5 คืออันตรายและเป็นปัญหามลภาวะทางอากาศที่รุนแรง เนื่องจากจมูกไม่สามารถกรองฝุ่นนี้ไม่ให้เข้าสู่ร่างกายได้ ทำให้เป็นสาเหตุของโรคต่าง ๆ รวมทั้งโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ PM 2.5 คืออะไร แหล่งกำเนิด อันตราย และควรป้องกันตนเองจากฝุ่นละอองเหล่านี้ได้อย่างไร บทความนี้มีคำตอบ

PM 2.5 คืออะไร

PM 2.5 คือ ฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน เล็กจนสามารถเล็ดลอดขนจมูกเข้าสู่ร่างกายได้ หรือเล็กจนขนจมูกของมนุษย์ที่ทำหน้าที่กรองฝุ่นนั้นไม่สามารถกรองได้ เมื่อฝุ่นละอองสามารถเล็ดลอดเข้าสู่ร่างกายโดยแพร่กระจายเข้าสู่ทางเดินหายใจ กระแสเลือด และเข้าสู่อวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย ก็จะเป็นพาหะนำสารอื่น ๆ เข้ามาด้วย เช่น แคดเมียม ปรอท โลหะหนัก และสารก่อมะเร็ง

แหล่งกำเนิดและที่มาของฝุ่น PM 2.5  

ฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM 2.5  มีแหล่งกำเนิดและที่มาจากสองแหล่งใหญ่ ๆ ได้แก่

  • แหล่งกำเนิดโดยตรง เช่น การเผาไหม้ขยะสารที่มีคาร์บอนเป็นองค์ประกอบ การเผาในที่โล่ง การจราจร โรงงานอุตสาหกรรมการผลิต การคมนาคมขนส่ง การผลิตไฟฟ้า และฝุ่นละอองจากครัวเรือน
  • การรวมตัวของก๊าซอื่น ๆ ในบรรยากาศ เช่น ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) ออกไซด์ของ ไนโตรเจน สารปรอท (Hg), แคดเมียม (Cd), อาร์เซนิก (As) หรือโพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอน (PAHs)

ระดับความรุนแรงของ PM2.5

สำหรับระดับความรุนแรงของ PM 2.5 องค์การอนามัยโลก หรือ World Health Organization (WHO) จัดไห้ฝุ่นละอองชนิดนี้อยู่ในกลุ่มที่ 1 ของสารก่อมะเร็ง ประกอบกกับแหล่งกำเนิด PM 2.5 มีทั้งการปล่อยโดยตรงจากแหล่งกำเนิดไม่ว่าจะเป็น การคมนาคมขนส่ง การผลิตไฟฟ้า การเผาในที่โล่ง และอุตสาหกรรมการผลิต ระดับความรุนแรงจึงขึ้นอยู่กับว่าพื้นที่ใดมีแหล่งกำเนิดแบบใดเป็นหลัก  และจากปฏิกิริยาเคมีในบรรยากาศ โดยมีสารกลุ่มซัลเฟอร์ หรือกลุ่มไนโตรเจนและแอมโมเนียเป็นสารตั้งต้น

PM 2.5 อันตรายที่ส่งผลต่อสุขภาพโดยไม่รู้ตัว

เนื่องจากฝุ่น PM 2.5 เป็นฝุ่นขนาดเล็กสามารถแทรกซึมเข้าไปในร่างกายได้โดยตรงจากการหายใจ โดยที่เราอาจไม่รู้ตัว และสามารถแพร่กระจายเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ ถุงลมในปอดและกระแสเลือดโดยตรง ส่งผลอันตรายต่อกระบวนการทำงานของอวัยวะต่าง ๆในร่างกาย เสี่ยงต่อการเป็นโรคเรื้อรัง หรือถึงขั้นเป็นมะเร็ง ซึ่งจะเห็นได้ว่า PM 2.5 มีผลกระทบต่อสุขภาพของร่างกายเราทั้งภายนอก และภายใน ดังนี้

ผลกระทบทางสุขภาพภายในร่างกาย ได้แก่ 

  • เกิดอาการระคายเคืองไอ จาม หรือภูมิแพ้
  • ผู้ที่เป็นโรคหอบ หรือภูมิแพ้ฝุ่นอยู่แล้ว จะยิ่งถูกกระตุ้นให้อาการรุนแรงมากขึ้น
  • ส่งผลให้เกิดโรคทางเดินหายใจเรื้อรัง
  • เป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคหลอดเลือด
  • เป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคปอดเรื้อรัง หรือมะเร็งปอด
  • สมองมีพัฒนาการช้า สมาธิสั้น

ผลกระทบภายนอก(ทางผิวหนัง)

  1. ทำให้เกิดผื่นภูมิแพ้ หรือมีผื่นคันตามตัว
  2. ส่งผลให้มีอาการปวดแสบปวดร้อน มีอาการระคายเคือง
  3. ส่งผลต่อสุขภาพผิว เนื่องจากทำร้ายเซลล์ผิวหนัง ทำให้ผิวอ่อนแอ เหี่ยวย่นง่าย
  4. เป็นลมพิษหรือเกิดผื่นลมพิษ หากอาการรุนแรงหรือได้รับฝุ่นละอองที่มีค่าเกินมาตรฐานอาจเกิดลมพิษทั่วร่างกาย
  5. อาจส่งผลต่อสุขภาพตา หรือเป็นโรคเยื่อบุตาอักเสบ

อาการ ภูมิแพ้

สัญญาณเตือนเมื่อร่างกายได้รับละอองฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐาน

  1. มีอาการแสบจมูก มีน้ำมูก ไอจาม
  2. มีอาการไข้ ตัวร้อน
  3. บริเวณผิวหนัง เกิดเป็นตุ่มผื่นนูนแดงกระจายบนผิวหนังโดยไม่ทราบสาเหตุ
  4. มีอาการหายใจลำบาก มีปัญหาระบบทางเดินหายใจ คัน แน่นในโพรงจมูก แน่นหน้าอกรวมทั้ง ไอ จาม มีน้ำมูกแบบใสๆ
  5. ส่งผลต่อดวงตา มีอาการตาแดง เปลือกตาบวม มีน้ำตาไหล ใต้ตาช้ำมีสีคล้ำขึ้น

ผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อละอองฝุ่น PM 2.5

  1. ผู้สูงอายุ และเด็ก 
  2. คุณแม่ตั้งครรภ์
  3. ผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือโรคเรื้อรังต่าง ๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคระบบทางเดินหายใจ โรคเยื่อบุตาอักเสบ โรคผิวหนัง และภูมิแพ้ต่าง ๆ
  4. บุคคลทั่วไปที่ต้องทำงานกลางแจ้ง หรือทำงานอยู่ในอุตสาหกรรมการผลิตที่เกี่ยวข้องกับสารเคมีต่าง ๆ 

การป้องกันตนเองจากฝุ่น PM 2.5 อย่างถูกวิธี

การป้องกันตนเองจากฝุ่น PM 2.5 ทำได้หลากหลายวิธีทั้งการป้องกันตนเองในวิถีชีวิตประจำวัน และการป้องกันตนเองช่วงวิกฤตที่มีละอองฝุ่นเกินค่ามาตรฐาน ดังนี้

วิธีป้องกันตนเองช่วงวิกฤตอองฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน เช่น

  1. ควรปิดประตู หน้าต่างเพื่อป้องกันฝุ่นละอองในช่วงวิกฤต
  2. ปิดห้องแอร์ให้สนิทช่วยลดฝุ่นพิษ
  3. สำหรับห้องที่ไม่ติดแอร์ การใช้พัดลมร่วมกับการใช้เครื่องฟอกอากาศชนิดมีแผ่นกรอง สามารถลดปริมาณฝุ่นควันได้เช่นเดียวกัน
  4. ดูแลระบบปรับอากาศและกรองอากาศภายในรถยนต์อย่างสม่ำเสมอ
  5. ในช่วงเวลาที่อากาศมีฝุ่นควัน PM2.5 ในปริมาณสูงจนอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพควรงด
  6. หลีกเลี่ยงการออกไปข้าง โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ และสตรีตั้งครรภ์
  7. ออกกำลังกายหรือสวมหน้ากากตลอดเวลาที่อยู่นอกบ้านหรือนอกอาคาร

วิธีป้องกันตนเองจากฝุ่นละอองในวิถีชีวิตประจำวัน

  1. การใช้เครื่องฟอกอากาศภายในบ้านในอาคาร ช่วยลดปริมาณของฝุ่น PM 2.5  ให้น้อยลงได้
  2. ใช้หน้ากากกันฝุ่นเป็นประจำ
  3. กรณีมีโรคประจำตัวหรืออยู่ในกลุ่มเสี่ยงควรเตรียมยาให้พร้อมหรือยาติดกระเป๋าไว้เสมอ
  4. หลีกเลี่ยงกิจกรรมเผาไหม้ทุกชนิด เพราะการเผาทำให้เกิดฝุ่นละอองในอากาศมากขึ้น
  5. ใช้เครื่องปรับอากาศที่มีระบบหมุนเวียนอากาศภายในบ้าน
  6. หมั่นทำความสะอาดบ้านอย่างสม่ำเสมอโดยใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ สำหรับเช็ดทำความสะอาดสิ่งต่าง ๆ และทำความสะอาดพื้นด้วยไม้ถูพื้นชุบน้ำ จะช่วยลดปริมาณฝุ่นละอองภายในบ้านได้
  7. หมั่นสังเกตตนเอง หากพบผื่นเรื้อรังที่มีการเปลี่ยนแปลง กลายเป็นเนื้อนูนขึ้นมา ควรพบแพทย์

การป้องกันตนเองจากฝุ่น PM 2.5  นอกจากทำความเข้าใจลักษณะและสาเหตุการเกิดฝุ่นละลองที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ เพื่อหาแนวทางและวิธีป้องกันตนเองได้อย่างถูกต้องแล้ว  การปรับภูมิทัศน์ปรับสภาพแวดล้อมภายในบ้าน ในสำนักงานด้วยการปลูกต้นไม้ทั้งไม่ยืนต้น ไม้ประดับและต้นไม้ที่สามารถดูดซับฝุ่นและมลพิษก็เป็นอีกหนึ่งแนวทางที่สามารถทำได้ไม่ยาก

aufarm-logo

เราจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสมุนไพรในราคาย่อมเยา และมีคุณภาพจากโรงงานที่ทันสมัย  ปลอดภัย น่าเชื่อถือ และตรวจสอบได้

Copyright © 2020 Aufarm / All rights reserved.

เมนูหลัก