ร้อนใน ปัญหาสุขภาพในช่องปาก รักษาได้ไม่ยาก

ร้อนใน
อาการร้อนในที่ทำให้เกิดแผลในช่องปาก ไม่ได้เป็นปัญหาส่งผลกระทบต่อสุขภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นปัญหาต่อบุคลิกภาพ เพราะอาจทำให้เกิดกลิ่นปากและยังทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง สาเหตุของร้อนในเกิดจากอะไร มีวิธีดูแลรักษาและป้องกันอาการร้อนในได้อย่างไร  คำถามนี้ aufarm.shop มีคำตอบ

อาการร้อนใน คืออะไร ?

ร้อนใน คือ การเกิดแผลภายในช่องปากเป็นแผลขนาดเล็ก ส่วนใหญ่ขึ้นบริเวณ กระพุ้งแก้ม ลิ้น หรือส่วนใดส่วนหนึ่งภายในปาก บางรายพบว่าเกิดแผลเปื่อยขึ้นบริเวณด้านในริมฝีปาก แก้มหรือลิ้น ทำให้มีอาการแสบ เจ็บและรับประทานอาหารหรือพูดคุยได้ลำบาก

สาเหตุของอาการร้อนใน

ร้อนใน เป็นอาการที่ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด ส่วนใหญ่แผลร้อนในที่เกิดขึ้นในช่องปาก จะสามารถหายได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์ โดยที่ไม่ต้องรักษา ส่วนสาเหตุทางการแพทย์สันนิษฐานว่าเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ดังนี้
  1. เกิดจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรม
  2. เกิดจากปัจจัยทางสภาพแวดล้อม เช่น จากสารก่อภูมิแพ้ต่าง ๆ
  3. เกิดจากการแพ้อาหารบางชนิด
  4. เกิดจากการตอบสนองต่อแบคทีเรียในปาก
  5. เกิดจากชื้อไวรัสในช่องปาก
  6. เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนต่าง ๆ ภายในร่างกาย
  7. เกิดจากปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน
  8. เกิดจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ และดื่มน้ำน้อย
  9. เกิดจากความเครียดหรือมีภาวะเครียดสะสม
  10. เกิดจากร่างกายขาดวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ เช่น ขาดเกลือแร่ วิตามินบี เหล็ก และสังกะสี

อาการร้อนในและลักษณะอาการที่ต้องพบแพทย์

อาการร้อนในที่พบส่วนใหญ่จะมีลักษณะที่คล้ายคลึงกัน ได้แก่การเป็นแผลบวมแดงและเจ็บในช่องปาก หรืออาจมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น อาการไข้ หรือต่อมน้ำเหลืองบวม มีตุ่มเล็ก ๆ ขึ้นบริเวณลิ้น แก้ม และริมฝีปากด้านใน ร้อนในแม้จะเป็นอาการที่สามารถหายได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์ หากมีอาการต่อไปนี้ควรพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและทำการรักษา เช่น
  1. มีอาการร้อนในเกิดขึ้นบ่อย ๆ โดยที่แผลเดิมยังคงอยู่และมีแผลใหม่เกิดขึ้นก่อนแผลเก่าจะหาย 
  2. มีอาการร้อนในและเป็นแผลในช่องปากพร้อมกับมีไข้สูง
  3. มีอาการร้อนในหรือเป็นแผลเปื่อยในช่องปากนานเกินกว่า 2 สัปดาห์
  4. แผลในช่องปากที่เกิดจากร้อนในมีขนาดใหญ่กว่าปกติ หรืออาการรุกลามไปยังบริเวณริมฝีปาก
  5. แผลในช่องปากที่เกิดจากร้อนใน ส่งผลให้รับประทานอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มได้ลำบากมาก
  6. แผลร้อนในภายในช่องปาก ไม่สามารถรักษาให้ดีขึ้นได้ด้วยตัวเอง
แปรงฟัน

การวินิจฉัยอาการร้อนในจากแพทย์

อาการร้อนในที่ส่งผลให้เกิดแผลในช่องปาก หากอาการรุนแรงและต้องพบแพทย์เพื่อทำการรักษา โดยทั่วไป แพทย์หรือทันตแพทย์สามารถระบุโรคได้ด้วยการตรวจดูที่แผล ยกเว้นกรณีที่พบความผิดปกติหรืออาการแผลร้อนในเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แพทย์จะวินิจฉัยด้วยการตรวจเลือดหรือตรวจชิ้นเนื้อจากผู้ป่วยที่มีอาการดังต่อไปนี้
  • พบความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายที่มีความบกพร่อง
  • มีความผิดปกติเกี่ยวกับระดับฮอร์โมนในร่างกายของผู้ป่วย
  • ตรวจพบแผลในช่องปากเกิดจากเชื้อไวรัส
  • แผลร้อนในเกิดจากร่างกายขาดวิตามินหรือแร่ธาตุต่าง ๆ 

แนวทางการรักษาแผลร้อนใน

โดยทั่วไปแผลร้อนในสามารถหายได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์ กรณีพบความผิดปกติหรือเกิดแผลในช่องปากรุกลามและผลใหญ่มากขึ้น สามารถแบ่งการรักษาออกเป็น 2 แนวทาง ได้แก่ การรักษาด้วยตนเองและรักษาอาการร้อนในโดยแพทย์ ดังนี้

1.รักษาอาการร้อนในและผลในช่องปากด้วยตนเอง 

การดูแลรักษาอาการร้อนในหรือแผลร้อนในด้วยตนเอง สามารถทำได้หลายวิธี เช่น การรักษาสุขอนามัยภายในช่องปากเพื่อป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรีย โดยการแปรงฟันให้สะอาดด้วยแปรงที่มีขนอ่อนนุ่ม หรือใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำ ขณะมีแผลในช่องปากที่เกิดจากร้อนในควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารรสจัด เพื่อช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น กลั้วปากด้วยน้ำยาบ้วนปากอ่อน ๆ หรือน้ำเกลือ ก็เป็นอีกหนึ่งแนวทางที่ช่วยบรรเทาอาการเจ็บแผลในช่องปากได้

2.รักษาอาการร้อนในโดยแพทย์

เมื่อมาพบแพทย์ด้วยอาการร้อนในนานเกินกว่า 1-2 สัปดาห์ รวมทั้งมีอาการผิดปกติของแผลภายในช่องปาก เมื่อวินิจอาการแล้วขึ้น แพทย์อาจแนะนำให้ใช้ยาบ้วนปากต้านแบคทีเรีย หรือยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของยาเดกซาเมทาโซน (Dexamethasone) หรือยาลิโดเคน (Lidocaine) เพื่อลดการอักเสบและความเจ็บปวด บางกรณีแพทย์อาจแนะนำให้ใช้ยาคอร์ติโคสเตอรอยด์ เช่น ยาไตรแอมซิโนโลน ส่วนผู้ที่ตรวจพบความผิดปกติเมื่อตรวจวินิจฉัยพบสาเหตุและอาการของโรคแล้ว แพทย์จะทำการรักษาไปตามแนวทางที่ถูก่ต้องและเหมาะสมกับอาการของโรคต่าง ๆ เหล่านั้น

วิธีป้องกันตนเองจากอาการร้อนใน

  1. ดื่มน้ำมาก ๆ และการป้องกันอาการร้อนในที่ได้ผลดีควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำเย็นและเป็นน้ำที่อุณหภูมิห้อง
  2. ทานอาหารประเภทผักผลไม้ที่มีกากใย หลีกเลี่ยงอาหารที่มีฤทธิ์ร้อน
  3. นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
  4. ดูแลสุขอนามัยของช่องปาก แปรงฟันหลังมื้ออาหารเป็นประจำหรือใช้ไหมขัดฟันวันละครั้ง จะช่วยให้ช่องปากสะอาด
  5. ควรหลีกเลี่ยงยาสีฟันที่มีส่วนผสมของโซเดียม ลอริล ซัลเฟต
ร้อนในและการเกิดแผลในช่องปาก เป็นปัญหาสุขภาพที่เป็นแล้วสารถหายได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์ หรือรักษาอาการด้วยตนเองได้หลายวิธี แต่การป้องกันตนเองย่อมดีกว่าดูแลรักษา เพียงดูแลสุขอนามัยในช่องปาก หมั่นออกกำลังกายพักผ่อนอย่างเพียงพอเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เมื่อร่างกายแข็งแรงมีภูมิต้านทานที่ดี ก็ช่วยให้ห่างไกลจากอาการร้อนในได้แล้ว
aufarm-logo

เราจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสมุนไพรในราคาย่อมเยา และมีคุณภาพจากโรงงานที่ทันสมัย  ปลอดภัย น่าเชื่อถือ และตรวจสอบได้

Copyright © 2020 Aufarm / All rights reserved.

เมนูหลัก