“ปัสสาวะเหลือง” สีปัสสาวะบ่งบอกปัญหาสุขภาพ

สีปัสสาวะ

การวินิจฉันของแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุของโรคต่าง ๆ นอกจากการตรวจเลือดแล้ว การตรวจปัสสาวะก็เป็นอีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญ โดยเฉพาะสีปัสสาวะที่สามารถบ่งบอกความผิดปกติหรือเป็นสัญญาณเตือนเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพได้ เพื่อให้ทุกคนรู้ทันอาการของโรคจากสีปัสสาวะ aufarm.shop มีความรู้ดี ๆ มาแนะนำเช่นเคยครับ

สีปัสสาวะบ่งบอกปัญหาสุขภาพได้

ปัสสาวะเป็นของเสียที่ร่างกายจำเป็นต้องขับออกมาทุก ๆ วัน ในรูปของน้ำหรือของเหลวโดยไตเป็นอวัยวะที่ทำหน้าที่กรองของเสียจากเลือดและทำการขับออกมาทางท่อปัสสาวะ สีปัสสาวะที่แตกต่างกันเกิดจากยูโรบิ ซึ่งได้มาจากสารฮีม ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของเม็ดเลือดแดง เมื่อเม็ดเลือดแดงตายตามอายุขัย สารฮีมจะสลายตัวให้เป็นสารยูโรบิลิน ซึ่งร่างกายจะกำจัดออกทางปัสสาวะและทางน้ำดีของตับ ปัญหาสุขภาพที่สามารถบ่งชี้ได้ด้วยลักษณะของสีปัสสาวะ คือ โรคไต โรคเบาหวาน โรคตับ โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ และโรคนิ่วในทางเดินปัสสาวะ

ปัสสาวะปกติ เป็นสีอะไร ?

โดยทั่วไป สีปัสสาวะ ของคนปกติจะเป็นสีเหลืองใส แต่สีอาจปรับเปลี่ยนหรือแตกต่างกันได้ หากดื่มน้ำระหว่างวันมากหรือดื่มน้ำแล้วปัสสาวะทันที สีของปัสสาวะอาจมีลักษณะขาวใส ถือเป็นปกติ หรือบางคนอาจปัสสาวะออกมาเป็นสีเหลืองสดหรือสีนีออน อาจเกิดจากการทานวิตามินบีรวม ทานยาบางชนิด หรือการทานอาหารต่าง ๆ ก็อาจทำให้สีและกลิ่นของปัสสาวะเปลี่ยนได้ชั่วขณะเช่นกัน

สีและลักษณะของปัสสาวะที่เป็นสัญญาณบอกโรค

นอกจากสีและลักษณะของปัสสาวะจะเป็นตัวบ่งชี้ปัญหาสุขภาพหรือเป็นสัญญาณเตือนอาการของโรคต่าง ๆ ได้ แต่สีปัสสาวะอาจแตกต่างกันไปจากปัจจัยต่าง ๆ ทำให้การวินิจฉัยโรคด้วยตนเองอาจไม่ชัดเจน จึงควรสังเกตสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ร่วมด้วย ได้แก่

  1. ปริมาณของปัสสาวะ กรณีปัสสาวะมีปริมาณมากหรือน้อยจากปกติ หากไม่มีปัจจัยอื่น ๆ เช่นดื่มน้ำมากหรือน้อย ก็ถือว่าอยู่ในภาวะผิดปกติ
  2. สังเกตจากกลิ่นของปัสสาวะ หากมีกลิ่นเหมือนนมแมว เป็นกลิ่นที่ส่วนใหญ่พบว่าร่างกายอาจมีโรคเบาหวาน หรือกลิ่นเหม็นเน่า ซึ่งอาจเกิดจากการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ
  3. ให้สังเกตสีปัสสาวะและลักษณะของความใส ขุ่น โดยปกติทั่วไปสีปัสสาวะจะใสหรือเหลืองอ่อนไม่ควรมีสีเข้มหรือเปลี่ยนสีจากปกติ
  4. จำนวนที่ปัสสาวะในแต่ละวัน หากเป็นช่วงกลางวัน การปัสสาวะที่ปกติจะประมาณ 46 ครั้ง ส่วนช่วงเย็นถึงเข้านอน ไม่ควรเกิน 2 ครั้งและระหว่างกลางคืนขณะนอนหลับไม่เกิน 2 ครั้ง
สีปัสสาวะ

Illustration of urine color chart illustration

สีปัสสาวะ บ่งบอกโรคอะไรบ้าง ?

สีของปัสสาวะไม่ได้มีเพียงสีเหลืองใสเท่านั้น ยังสามารถมีได้หลายสี ทั้งนี้ก็จะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ ที่ร่างกายได้รับในช่วงนั่น ๆ เช่น ยาที่รับประทาน อาหาร รวมทั้งการเจ็บป่วย การมีโรคประจำตัว ซึ่งสีของปัสสาวะที่ผิดปกติ ยังสามารถบอกได้ว่าร่างกายอาจมีโรคใดแฝงอยู่  เช่น 

  1. สีเหลืองอ่อน เป็นลักษณะของปัสสาวะในคนปกติทั่วไป 
  2. สีเหลืองเข้ม เป็นลักษณะที่ปกติทั่วไป แต่เป็นสัญญาณเตือนว่าควรดื่มน้ำให้มากขึ้น
  3. สีเหลืองส้ม อาจเป็นเพราะว่ามีวิตามินหรืออาหารเสริมบางชนิดอยู่ในร่างกาย จนเกินความต้องการของร่างกาย หรือเกิดจากการทานยาวัณโรค ยาลดการระคายเคืองทางเดินปัสสาวะ
  4. สีเหลืองเข้มคล้ำ อาจเป็นโรคไวรัสตับอักเสบ โรคดีซ่าน มะเร็งตับที่เกิดจากท่อน้ำดีในตับ 
  5. สีขาวใส นั่นหมายถึงในร่างกายกำลังมีปริมาณน้ำมาก แต่กลับมีปริมาณเกลือแร่น้อย ซึ่งอาจมาจากการดื่มน้ำ การยาบางชนิดเช่นยาขับปัสสาวะ หรือกำลังมีโรคไตแฝงอยู่ หากเป็นกรณีนี้ปัสสาวะก็จะใสตลอดทุกครั้งไม่เกิดเป็นครั้งคราวเหมือนกรณีอื่น ๆ
  6. สีขาวขุ่น เป็นเพราะร่างกายเกิดผลึกของสารฟอสเฟต หรือมีโปรตีนอยู่ในร่างกายเป็นจำนวนมาก ซึ่งอาการนี้มักเกิดจากโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ โรคกรวยไตอักเสบ
  7. สีแดง เกิดจากการทานอาหารบางชนิด รวมทั้งอาจมีเลือดปนมากับปัสสาวะซึ่งอาจเป็นอาการของโรคนิ่วในไต ไตอักเสบ กระเพาะปัสสาวะอักเสบ มะเร็งกระเพาะ  
  8. สีน้ำตาลเข้ม อาจเกิดจากการทานอาหารบางชนิดเช่นถั่วปากอ้าในปริมาณมาก การทานยาบางชนิด เช่นยาระบาย ยาคลายกล้ามเนื้อ ยารักษาโรคพาร์กินสัน ยาปฏิชีวนะอื่น ๆ
  9. สีดำ เป็นโรคทางพันธุกรรมเช่น โรคแอลแคปโตนูเรีย พบได้ไม่บ่อยนัก

การดูแลตนเองเพื่อให้สีปัสสาวะเป็นปกติ

สำหรับการดูแลตนเองเพื่อให้สีปัสสาวะเป็นปกติ ควรหมั่นสังเกตสีของปัสสาวะบ่อย ๆ จะทำให้ระมัดระวังและดูแลตนเอง เพื่อช่วยให้ปัสสาวะมีสีเหลืองใสเป็นปกติ  โดยการปฏิบัติตัว ดังนี้

  1. ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 68 แก้ว โดยแบ่งตามช่วงวัน ดังนี้

–  ผู้ที่มีอายุ 48 ปี ควรดื่มวันละ 5 แก้ว

–  อายุ 913 ปี ควรดื่มวันละ 8 แก้ว 

–  อายุ 1418 ปี ควรดื่มวันละ 811 แก้ว

– อายุ 19 ปีขึ้นไป ควรดื่มวันละ 9 แก้ว

– สำหรับผู้ชายที่อายุมากกว่า 19 ปี ควรดื่มวันละ 13 แก้ว

  1. ตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี ซึ่งขั้นตอนของแพทย์ จะทำการตรวจเลือดและตรวจปัสสาวะ เพื่อดูว่าร่างกายมีอาการของโรคแฝงอยู่หรือไม่
  2. หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำตามความเหมาะสมของวัย และควรออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 34 ครั้งแต่ละครั้งควรต่อเนื่อง 40 นาที
  3. เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่นรับประทานผัก ผลไม้ และอาหารที่มีเส้นใยสูง เพื่อให้การขับถ่ายและปัสสาวะเป็นปกติ 
  4. หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ เช่น การดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ รวมทั้งไม่ควรอั้นปัสสาวะเป็นเวลานาน 
  5. รักษาสุขอนามัยส่วนตัวให้สะอาดอยู่เสมอ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ เช่น ชำระล้างด้วยน้ำสะอาดเมื่อต้องขับถ่ายทั้งปัสสาวะและอุจจาระ

การที่สีปัสสาวะผิดปกติ ไม่เหลืองใสบางครั้งก็ไม่ใช่สิ่งที่บ่งบอกว่าร่างกายมีปัญหาสุขภาพเสมอไป หรือพบว่าสีของปัสสาวะเปลี่ยนไป หากเปลี่ยนไปชั่วคราวแล้วกลับมาเป็นสีเหลืองปกติ อาจหมายถึงร่างกายได้รับสารบางอย่างมากเกินไป แต่ถ้าสีของปัสสาวะเปลี่ยนไปบ่อย ๆ ร่วมกับมีความผิดปกติอื่น ๆ เกิดขึ้นกับร่างกาย ควรพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ และทำการรักษาได้อย่างถูกต้องตามภาวะของโรค

aufarm-logo

เราจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสมุนไพรในราคาย่อมเยา และมีคุณภาพจากโรงงานที่ทันสมัย  ปลอดภัย น่าเชื่อถือ และตรวจสอบได้

Copyright © 2020 Aufarm / All rights reserved.

เมนูหลัก