รู้ทันโรคริดสีดวง และวิธีป้องกันรักษา

ริดสีดวงทวาร

การมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีสุขภาพร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงปราศจากโรคภัย เชื่อว่าเป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา เช่นเดียวกับประโยคที่ว่า “การไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ” แต่การมีสุขภาพที่ดีได้เราต้องรู้ทันโรค เพื่อหาวิธีป้องกันและดูแลสุขภาพให้ห่างไกลจากโรคเหล่านั้น ริดสีดวง หรือโรคริดสีดวงทวาร เป็นปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับระบบขับถ่ายที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน การรู้ทันโรคทำให้สามารถดูแลและป้องกันตนเองได้ดีที่สุด

โรคริดสีดวง คืออะไร

ริดสีดวง เป็นปัญหาสุขภาพที่เกิดจากภาวะหลอดเลือดดำบริเวณทวารหนัก หรือส่วนปลายสุดของลำไส้ใหญ่ที่อยู่ติดกับทวารหนักเกิดอาการโป่งพอง มีลักษณะเป็นขอดหรือเป็นติ่งยื่นนูนออกมาจากทวารหนัก ที่เรียกว่า หัวริดสีดวง ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ ได้แก่ ริดสีดวงที่มองเห็นได้จากภายนอก และริดสีดวงภายในเกิดจากหลอดเลือดที่อยู่ลึกเข้าไป ริดสีดวงลักษณะนี้จะตรวจพบได้เมื่อใช้กล้องส่องตรวจโดยตรงเท่านั้น

สาเหตุของโรคริดสีดวงทวาร

ริดสีดวงทวาร เป็นโรคที่ไม่สามารถสรุปสาเหตุได้แน่ชัด ส่วนปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคมาจากอาการหลอดเลือดดำบริเวณทวารหนักโป่งพองเป็นติ่งเนื้อและมีภาวะความดันในหลอดเลือดดำสูง ซึ่งเกิดจากสาเหตุต่าง ๆ ดังนี้

  • เกิดจากการรับประทานอาหารที่มีกากใยน้อย ส่งผลให้มีภาวะท้องผูกเรื้อรังทำให้ต้องเบ่งถ่ายอุจจาระเป็นประจำ และส่งผลให้หลอดเลือดโป่งพองหรือหลอดเลือดขอดได้ง่าย
  • เกิดจากพฤติกรรมการขับถ่าย เช่น การเบ่งถ่ายอุจจาระเป็นเวลานาน เนื่องจากเล่นโทรศัพท์มือถือหรืออ่านหนังสือขณะขับถ่าย
  • เกิดจากมีอาการท้องถูกและชอบใช้ยาสวนอุจจาระหรือทานยาระบายเป็นประจำ
  • เกิดจากภาวะตั้งครรภ์ เพราะเมื่อน้ำหนักครรภ์มากขึ้นจะกดทับลงบนกลุ่มเนื้อเยื่อหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดเกิดการบวมพอง
  • ริดสีดวงที่มีสาเหตุจากความอ้วน หรือการที่มีน้ำหนักตัวมาก ๆ เพราะอาจเกิดภาวะกดทับลงบนกลุ่มเนื้อเยื่อหลอดเลือดได้เช่นเดียวกับภาวะตั้งครรภ์
  • ผู้ป่วยที่มีอาการไอเรื้อรัง การไอแรง ๆ เพราะมีผลต่อการเพิ่มแรงดันในช่องท้อง
  • ผู้สูงอายุ ซึ่งส่วนใหญ่จะมีอาการเสื่อมของเซลล์ต่าง ๆที่เกี่ยวพันทางทวารหนัก
  • การยกของหนักบ่อย ๆ ก็เป็นสาเหตุหนึ่งในการเกิดโรคริดสีดวงทวาร
  • ริดสีดวง อาจพบร่วมกับโรคในช่องท้องอื่น ๆ ได้ เช่น เนื้องอกมดลูก เนื้องอกหรือถุงน้ำรังไข่ และมะเร็งลำไส้ใหญ่
  • มีสาเหตุมาจากพันธุกรรม โดยอาจพบว่าคนที่เป็นริดสีดวง มักมีคนในครอบครัวเป็นริดสีดวงทวารมาก่อน

ริดสีดวง

อาการของโรคริดสีดวงทวาร ที่ควรรู้

โรคริดสีดวงทวาร มีอยู่ 2 ลักษณะ ได้แก่ ริดสีดวงภายในและริดสีดวงภายนอก อาการของโรคจะแตกต่างกัน ดังนี้

  1. อาการริดสีดวงภายใน
    ริดสีดวงภายใน อาการที่ชัดเจนคือจะมีเลือดออกทางทวารหนักโดยไม่รู้สึกเจ็บปวด เลือดที่ออกจะมีลักษณะสีแดงสดไหลหยดลงในโถส้วม หรืออาจสังเกตได้จากเลือดที่เปื้อนติดกระดาษชำระ และบางครั้งอาจปนมากับอุจจาระ อาการจะเป็น ๆ หาย ๆ ถ้ามีเลือดออกมากหรือเป็นเรื้อรัง อาจทำให้เกิดอาการซีดตามมาได้ หากอาการเริ่มรุนแรงหรือเป็นมาก อาจมีหัวริดสีดวงโผล่ออกมาบริเวณปากทวารหนัก หรือเห็นเป็นก้อนเนื้อนิ่ม ๆ ปลิ้นโผล่ออกมาและทำให้เกิดอาการปวดหรือเจ็บที่ทวารหนัก ในรายที่เป็นมากริดสีดวงอาจกลายเป็นก้อนแข็งเกิดภาวะเซลล์ตาย และอาจมีอาการคันและกลั้นอุจจาระไม่อยู่ได้
  2. อาการริดสีดวงภายนอก
    อาการของริดสีดวงภายนอก จะเห็นได้อย่างชัดเจน คือมีติ่งเนื้อออกมาจากปากทวารหนัก เมื่อมีอาการท้องผูกหรือท้องเสีย จะทำให้มีอาการบวม ปวด และรู้สึกระคายเคือง ปกติอาการจะหายเจ็บได้ภายใน 2-3 วัน หรือหายแล้วจะยังมีผิวหนังเป็นติ่งเหลืออยู่ และหากหัวริดสีดวงมีขนาดใหญ่ก็อาจทำให้เกิดการระคายเคืองหรือคันบริเวณรอบปากทวารหนักได้ด้วย

การวินิจฉัยโรคของแพทย์

  • วินิจฉัยโรคจากการดูประวัติอาการ
  • การตรวจร่างกาย การตรวจก้อนเนื้อบริเวณทวารหนัก
  • การส่องกล้องตรวจทางทวารหนักและลำไส้โดยตรง
  • ในผู้ป่วยบางราย อาจมีการตัดชิ้นเนื้อเพื่อตรวจทางพยาธิวิทยาด้วย

การรักษาโรคริดสีดวงทวาร

  1. การรักษาแบบประคับประคอง ได้แก่ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้อาการริดสีดวงมีความรุนแรงมากขึ้น เช่น ระวังป้องกันไม่ให้ท้องผูก หรือท้องเดินบ่อย ๆ ทานอาหารที่มีกากใย ฝึกขับถ่ายอุจจาระให้เป็นเวลา หลีกเลี่ยงการนั่งเบ่งถ่ายเป็นเวลานาน ๆ และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างสม่ำเสมอ
  2. การรักษาทางศัลยกรรม การรักษาด้วยวิธีนี้ส่วนใหญ่เกิดจากการรักษาด้วยวิธีประคับประคอง
    แล้วไม่ได้ผล และขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์ผู้ทำการรักษา เช่น การฉีดยาเข้าที่หัวริดสีดวงทวาร การรักษาโดยวิธีใช้ยางรัด เพื่อทำให้หัวริดสีดวงยุบหรือฝ่อ หรือการผ่าตัดริดสีดวงทวา

วิธีป้องกันตนเองให้ห่างไกล ริดสีดวงทวาร

  • ดื่มน้ำหรือจิบน้ำบ่อย ๆ อย่างน้อยวันละ 6- 8 แก้ว และควรดื่มน้ำแก้วใหญ่ทันทีหลังตื่นนอน
  • ตอนเช้าจะช่วยกระตุ้นการขับถ่ายเป็นการป้องกันอาการริดสีดวง ได้ดี
  • ฝึกการขับถ่ายให้เป็นเวลา ป้องกันปัญหาท้องผูกหรือนั่งขับถ่ายเป็นเวลานาน ๆ
  • หลีกเลี่ยงการใช้ยาระบายอย่างรุนแรง หรือการสวนถ่ายอุจจาระจนเป็นนิสัย
  • หลีกเลี่ยงความเครียด ทำจิตใจให้ผ่อนคลาย
  • หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ป้องกันโรคอ้วนที่เป็นสาเหตุหนึ่งของโรคริดสีดวง
aufarm-logo

เราจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสมุนไพรในราคาย่อมเยา และมีคุณภาพจากโรงงานที่ทันสมัย  ปลอดภัย น่าเชื่อถือ และตรวจสอบได้

Copyright © 2020 Aufarm / All rights reserved.

เมนูหลัก