อาการเวียนศีรษะดูเหมือนจะเป็นเรื่องปกติธรรมดา ที่ทุกคนอาจเคยประสบกันมาบ้างแล้ว ลักษณะอาการของแต่ละคนอาจแตกต่างกัน ทั้งอาการเวียนศีรษะ มึนงง คลื่นไส้ มีอาการโคลง ๆ รู้สึกคล้ายบ้านหมุน และทรงตัวไม่ได้ อาการเวียนศีรษะบ้านหมุนเกิดจากอะไร และเป็นโรคที่อันตรายร้ายแรงหรือไม่ วันนี้ aufarm.shop มีคำตอบมาให้ค่ะ
เวียนศีรษะบ้านหมุน โรคนี้อันตรายหรือไม่ ?
เวียนศีรษะบ้านหมุน เป็นอาการที่พบได้บ่อย ในคนวัยทำงานและผู้สูงอายุ อาการเวียนศีรษะ มึนงงหรือมึนศีรษะ จะมีลักษณะอาการคล้าย ๆ กัน ส่วนอาการบ้านหมุนคือโรคเดียวกันหรือไม่และเกิดจากอะไร อันตรายหรือไม่ ก่อนหาคำตอบเราต้องทำความเข้าใจกับอาการเวียนศีรษะและมึนศีรษะกันก่อน เพื่อทำให้เข้าใจอาการเวียนศีรษะบ้านหมุนได้ง่ายขึ้นอาการบ้านหมุน คืออะไร ?
อาการบ้านหมุน คือลักษณะอาการเวียนศีรษะที่มีมากกว่าธรรมดา เพราะผู้ป่วยส่วนใหญ่จะรู้สึกเหมือนบ้านหรือสิ่งของรอบ ๆ ตัวที่มองเห็นหมุนได้ และมีอาการโคลงเคลงเสียการทรงตัวเหมือนจะล้มไปด้านใดด้านหนึ่ง อาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียนเกิดขึ้นแบบเฉียบพลันเป็นช่วง ๆ อาการมักเป็นมากขึ้นเมื่อมีการขยับศีรษะสาเหตุ และอาการเวียนศีรษะบ้านหมุน
อาการเวียนศีรษะบ้านหมุน ผลกระทบที่เกิดจากอาการเหล่านี้ก็คือ เมื่อมีอาการบ้านหมุนเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลันจะไม่สามารถควบคุมการทรงตัวได้ซึ่งเสี่ยงต่อการล้มหรือเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ส่วนสาเหตุของโรค โดยทั่วไปการทรงตัวของมนุษย์จะเกิดจากการทำงานประสานกันของอวัยวะ 3 ส่วน คือสายตา ระบบประสาทรับความรู้สึก และประสาทหูชั้นใน อาการเวียนศีรษะบ้านหมุนจึงเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้1. โรคหินปูนในหูชั้นในเคลื่อน
เกิดจากความเสื่อมของหูชั้นใน ส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นทันทีทันใด ในขณะกำลังล้มตัวลงนอนหรือลุกจากที่นอน เงยหน้า ก้มหยิบสิ่งของมักจะเป็นระยะสั้น ๆ เป็นแค่ช่วงวินาทีที่ขยับศีรษะ แล้วอาการจะค่อย ๆ หายไป อาการบ้านหมุนจากโรคหินปูนในหูชั้นในเคลื่อนมักมีอาการเป็นซ้ำเกือบทุกวัน ทำให้รู้สึกวิตกกังวลหรือเป็นปัญหาต่อการใช้ชีวิต แต่อาการของโรคนี้ จะไม่มีอาการหูอื้อ สูญเสียการได้ยิน หรือได้ยินเสียงผิดปกติในหู2. โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน หรือน้ำในหูชั้นในผิดปกติ
เป็นโรคที่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด ผู้ป่วยจะมีอาการบ้านหมุนอย่างรุนแรง บางรายอาจคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย อันตรายของโรคนี้ทำให้สูญเสียการทรงตัว เดินแล้วเซหรือล้มได้ง่าย โรคน้ำในหูไม่เท่ากันเมื่อเกิดขึ้นแล้วจะมีอาการเป็นเวลานานทำให้อยู่นิ่ง ๆ ไม่สามารถขยับร่างกายเพราะอาจทำให้เกิดอาการเวียนหัวเพิ่มขึ้นได้3. โรคเวียนศีรษะจากไมเกรน
แม้ลักษณะอาการส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะรู้สึกปวดศีรษะตุบ ๆ ข้างเดียวตามจังหวะการเต้นของหัวใจ แต่บางครั้งอาจมีเพียงอาการเวียนศีรษะบ้านหมุนแทน ซึ่งอาการเวียนศีรษะจากไมเกรนจะเป็น ๆ หาย ๆ สลับกันไป และเมื่อมีอาการเกิดขึ้นมักมีอาการหูอื้อเห็นแสงวูบวาบร่วมด้วย บางครั้งผู้อาจอาจเข้าใจผิดว่าเป็นโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน4. โรคที่เกี่ยวกับระบบไหลเวียนโลหิต
ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ โรคโลหิตจาง หรือโรคความดันโลหิตสูง อาการของโรคเหล่านี้ทำให้มีอาการหน้ามืดเวียนศีรษะบ้านหมุนได้5. โรคที่เกิดจากความเครียด หรือโรคทางจิตเวช
อาการของโรคเหล่านี้เมื่อผู้ป่วยเกิดความเครียดเพิ่มมากขึ้น หรืออยู่ในที่แคบ ที่โล่ง ที่สูง หรือที่ชุมชน อาจมีอาการเวียนศีรษะบ้านหมุน แต่จะหายไปเมื่อไม่อยู่ในสถานการณ์ดังกล่าวการตรวจวินิจฉัยของแพทย์
ในการตรวจวินิจฉัยก่อนทำการรักษา แพทย์จะทำการวินิจฉัยแยกโรคเพื่อรักษาตามสาเหตุของโรค ซึ่งมีอยู่ 2 วิธี ดังนี้1. ตรวจวินิจฉัยจากประวัติการเวียนศีรษะ
แพทย์จะทำการซักประวัติที่อาจเป็นสาเหตุของโรค เช่น เคยมีประวัติเป็นโรคหูหรือไม่ เคยได้รับการกระทบกระเทือนทางสมอง ทานยารักษาโรค หรือมีประวัติการเป็นโรคเรื้อรังต่าง ๆ รวมทั้งลักษณะการเวียนศีรษะบ้านหมุน อาการมึนงง หรืออาการเดินเซ2. การตรวจร่างกาย
แพทย์จะทำการตรวจร่างกาย โดยตรวจหู คอ และจมูกร่วมด้วย เพื่อตรวจหาความผิดปกติของร่างกายส่วนอื่น ๆ เพื่อวินิจฉัยแยกโรคซึ่งอาจเป็นต้นเหตุของอาการเวียนศีรษะ ได้แก่- การตรวจการได้ยินแบบพิเศษ
- ตรวจลักษณะการเดินและการทรงตัว
- ตรวจประสาททรงตัวของหูชั้นในโดยการทำ Caloric test
- การตรวจการทำงานของก้านสมอง
- ตรวจความผิดปกติของตาด้วย VNG
การรักษาโรคเวียนศีรษะบ้านหมุน
การรักษาและวิธีดูแลตัวเองเมื่อเป็นโรคเวียนศีรษะบ้านหมุน เมื่อแพทย์วินิจฉัยแล้วจะทำการรักษาพร้อมคำแนะนำในการดูแลตัวเองตามแนวทางต่อไปนี้1. การรักษาตามอาการของโรค
- ให้ทานยากดการรับรู้ของประสาททรงตัว เพื่อให้หายจากอาการเวียนศีรษะบ้านหมูน
- ให้ยาสงบหรือยาระงับประสาท
- ให้ยาบรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียน
- ให้ยาขยายหลอดเลือด เพื่อเพิ่มเลือดไปเลี้ยงระบบประสาทรงตัว โดยการรักษาด้วยวิธีนี้เป็นการรักษาที่ปลายเหตุ
2. การรักษาตามสาเหตุของโรค
ซึ่งการรักษาในข้อนี้แพทย์จะต้องทำการวินิจฉัย เพื่อให้รู้สาเหตุที่แท้จริงของโรคเสียก่อน เนื่องจากแต่ละสาเหตุความรุนแรงของโรคจะแตกต่างกัน เช่น โรคหินปูนในหูชั้นในเคลื่อน โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน โรคเวียนศีรษะจากไมเกรน โรคที่เกี่ยวกับระบบไหลเวียนโลหิต โรคที่เกิดจากความเครียดวิธีดูแลตัวเองเมื่อเป็นโรคเวียนศีรษะบ้านหมุน
อาการเวียนศีรษะบ้านหมุน เป็นโรคที่มักเกิดขึ้นแบบเฉียบพลัน การปฏิบัติตัวที่ถูกต้องขณะเวียนศีรษะ มีดังนี้- เมื่อมีอาการเวียนศีรษะขณะเดิน ให้หยุดยืนนิ่ง ๆ และนั่งพัก เพื่อป้องกันการล้มหรือเกิดอุบัติเหตุอื่น ๆ
- พยายามหลีกเลี่ยงการทำท่าทางที่ทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะบ้านหมุน เช่น การหมุนตัว การเปลี่ยนอิริยาบถอย่างรวดเร็ว
- หลีกเลี่ยงการใช้ยาที่มีพิษต่อประสาททรงตัว
- หลีกเลี่ยงปัจจัยที่เป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะบ้านหมุน เช่น ความเครียด ความวิตกกังวล การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- ทานยาตามแพทย์สั่ง และพบแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอ
-
฿990.00
฿2,770.00Cordy Plus (60 แคป) แถมเห็ดหลินจือแดงสกัด
฿990.00฿2,770.00 -
฿790.00
฿1,380.00เห็ดหลินจือแดงสกัด (250 มก.) 1 กล่อง แถมชาเห็ดหลินจือ 1 กล่อง
฿790.00฿1,380.00 -