อาการวัยทอง และวิธีดูแลสุขภาพ เมื่อเข้าสู่วัยทอง

วัยทอง
วัยทอง คือช่วงวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ เกิดได้ทั้งเพศหญิงและเพศชาย ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในช่วงวัยทอง บางคนมีอาการรุนแรงและส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต การเรียนรู้ภาวะวัยทองและวิธีดูแลสุขภาพอย่างถูกต้องเหมาะสม นอกจากช่วยให้ผู้ที่มีอาการวัยทองสามารถปรับตัวรับกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้แล้ว ความรู้เกี่ยวกับอาการวัยทองยังทำให้ลูกหลานหรือคนในครอบครัวรับมือกับอาการวัยทองของคนใกล้ตัวได้อย่างเข้าใจ 

รู้ทัน ภาวะวัยทอง 

ภาวะวัยทอง คือช่วงวัยที่ความสามารถในการผลิตฮอร์โมนเพศลดน้อยลง จนเกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งร่างกาย อารมณ์ และสังคม อาการวัยทองเกิดขึ้นได้ทั้งเพศหญิงและเพศชาย โดยส่วนใหญ่แล้วเพศหญิงจะมีอาการเปลี่ยนแปลที่ชัดเจนมากกว่าเพศชาย

อาการวัยทองของเพศหญิง

เกิดจากการสิ้นสุดของการมีประจำเดือนอย่างถาวรเนื่องจากรังไข่หยุดการทำงาน อายุเฉลี่ยที่จะเข้าสู่วัยทองคือ 40 – 59  ปี การเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาที่ตามมา แบ่งออกเป็น 3 ระยะ คือ ระยะก่อนหมดประจำเดือนระยะนี้จะเกิดขึ้นประมาณ 2-3 ปี ระยะที่ 2 เป็นระยะหมดประจำเดือน ประมาณ 1 ปีและระยะที่ 3 คือระยะหลังหมดประจำเดือน เป็นระยะที่เริ่มตั้งแต่หลังหมดประจำเดือนมาแล้ว 1 ปี

อาการวัยทองในเพศชาย

เกิดจากระดับฮอร์โมนเพศชายเทสโทสเตอโรนลดลงตามวัยที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งเทสโทสเตอโรน เป็นฮอร์โมนหลัก ช่วยกระตุ้นลักษณะความเป็นเพศชาย มีบทบาทสำคัญในระบบการสืบพันธุ์ วัยทองในผู้ชายจะเริ่มเมื่ออายุ 40 ปีขึ้นไป

สัญญาณบ่งบอกอาการวัยทองในเพศหญิง

  1. ประจำเดือนเริ่มมาไม่สม่ำเสมอ หรือประจำเดือนมาน้อยลง จนหมดประจำเดือน
  2. มีอาการแปรปรวนทางอารมณ์ หงุดหงิดง่าย นอนไม่หลับ
  3. มีอาการร้อนวูบวาบ อาจเกิดขึ้นเป็นเวลา เช่น ช่วงก่อนนอนอาจมีเหงื่อออกในเวลากลางคืน หรือ บางคนอาจมีอาการหนาวสั่น 
  4. มีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดตามข้อและกระดูก
  5. ผิวหนังแห้งและบางลง ทำให้เกิดแผลได้ง่าย เส้นผมหยาบแห้ง และหลุดร่วงมาก

สัญญาณบ่งบอกอาการวัยทองในเพศหญิง

  1. เริ่มมีความต้องการทางเพศลดน้อยลง เนื่องจากระดับฮอร์โมนเพศชายเทสโทสเตอโรน ลดลงตามวัย
  2. ประสิทธิภาพทางเพศลดลง ความแข็งตัวของอวัยวะเพศลดลง
  3. ร่างกายมีความแข็งแรงลดลง ความสามารถในการเล่นกีฬาลดลง
  4. อาจรู้รู้สึกซึมเศร้าโดยไม่รู้ตัว
  5. อารมณ์หงุดหงิดง่าย ความสนุกสนานในชีวิตลดลง
อาหารที่มีประโยชน์

ภาพโดย Jill Wellington จาก Pixabay

วิธีรับมือกับอาการวัยทองในเพศหญิงและเพศชาย  

สำหรับภาวะวัยทองในเพศหญิงและเพศชาย แม้จะเป็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตามวัยเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่การเรียนรู้อาการเพื่อเตรียมความพร้อมเมื่อถึงช่วงวัยทองก็จะทำให้สามารถรับมือและลดปัญหาที่จะส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตได้ วิธีรับมือกับอาการวัยทองในเพศหญิงและเพศชาย  มีดังนี้
  1. ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เลือกทานอาหารที่หลากหลายเพื่อช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนสมดุล เน้นอาหารที่มีแคลเชียมสูง การมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง มีสุขภาพที่ดีช่วยลดความเครียด และอารมณ์แปรปรวนของคนที่อยู่ในช่วงวัยทองได้
  2. หลีกเลี่ยงอาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูง อาหารที่มีความเหนียว แข็งทำให้เคี้ยวยากและย่อยยาก ควรเลือกรับประทานอาหารประเภทพืชผักและผลไม้ที่ย่อยง่าย
  3. ฝึกควบคุมอารมณ์และจิตใจ เมื่อเข้าสู่ภาวะวัยทอง หากเรียนรู้และเริ่มมีความเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกาย และจิตใจ ควรควบคุมอารมณ์ให้อยู่ในสภาวะเหมาะสม ฝึกฝนได้โดยการนั่งสมาธิ คิดบวกมองบวกและทำจิตใจให้เบิกบานอยู่เสมอ
  4. หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ  การออกกำลังกายจะทำให้ร่างกายปรับสมดุลระบบการทำงานทั้งภายในและภายนอกให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เมื่อมีอารมณ์หงุดหงิดการออกกำลังกายจะช่วยให้อารมณ์ดีและใจเย็นขึ้น 
  5. พบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพเป็นประจำอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง

ปัญหาสุขภาพเมื่อเข้าสู่วัยทอง

  1. ปัญหาภาวะกระดูกพรุน ผู้ที่อยู่ในวัยทองมักมีอาการปวดกระดูก กระดูกแตกหักจากอุบัติเหตุเล็กน้อยได้ง่าย
  2. น้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้นและเริ่มอ้วน ผู้ชายวัยทองอาจอ้วนลงพุง
  3. มีปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับระบบทางเดินปัสสาวะ
  4. สูญเสียมวลกล้ามเนื้อโดยเฉพาะผู้ชายวัยทอง เริ่มมีไขมันสะสมรอบเอวและหน้าอก
  5. มีปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับระบบหัวใจและหลอดเลือด
  6. ผิวแห้งและบางลง หย่อน ไม่เต่งตึง

อาหารที่ควรรับประทานในวัยทอง 

ผู้ที่เข้าสู่ช่วงวัยทอง อารมณ์มักแปรปรวน หงุดหงิดง่าย เป็นปัญหาที่เกิดจากระดับฮอร์โมนเพศลดลง อาหารที่รับประทานเป็นประจำ ควรเป็นอาหารที่ช่วยเพิ่มฮอร์โมนแห่งความสุข เช่น ข้าวกล้อง ธัญพืช ถั่วต่าง ๆ ปลาแซลมอน ไข่ กล้วย ดาร์กช็อกโกแลต เต้าหู้ และน้ำเต้าหู้ นอกจากนี้วัยทองยังมีความเสี่ยงต่อภาวะกระดูกพรุน มีโอกาสที่จะกระดูกแตกหักง่าย จึงควรรับประทานอาหารอุดมด้วยแคลเซียม ได้แก่ 
  1. โยเกิร์ตไขมันต่ำ                                
  2. นมไขมันต่ำ
  3. ผักใบเขียว เช่น บล็อกโคลี แขนงผัก ดอกกะหล่ำ หัวไชเท้า เป็นต้น
  4. ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เช่น บลูเบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ สตรอเบอร์รี่ รวมถึงแอปเปิ้ล องุ่น และส้ม

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงเมื่อเข้าสู่วัยทอง

ผู้ที่อยู่ในภาวะวัยทองควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง และอาหารที่ไปกระตุ้นให้ภาวะวัยทองมีอาการมากขึ้นได้ เช่น เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน และ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การดื่มชา กาแฟ เป็นประจำยังส่งผลทำให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้น้อยลง เสี่ยงต่อการเป็นโรคกระดูกพรุน หลีกเลี่ยงอาหารอาหารรสจัด ขนมขบเคี้ยว ขนมหวาน และ อาหารแปรรูป เนื่องจากฮอร์โมนเอสโตรเจนและเทสโทสเตอโรนลดต่ำลง ส่งผลให้ไขมันสะสมที่หน้าท้อง ทำให้อ้วนได้ง่าย ทำให้เสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดและหัวใจ รวมถึงโรคเบาหวานหรือโรคเรื้อรังอื่น ๆ  อาการวัยทอง เป็นภาวะความเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่เกิดขึ้นได้ทั้งเพศหญิงและเพศชาย ในช่วงอายุระหว่าง 40 – 50 ปี วิธีดูแลสุขภาพเมื่อเข้าสู่วัยทอง ก็คือรู้ทันอาการวัยทองเพื่อรับมือกับอาการต่าง ๆ โดยเฉพาะการควบคุมอารมณ์ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อคนรอบข้างและการดำเนินชีวิต บำรุงดูแลสุขภาพ เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์หรือทานอาหารเสริมที่เหมาะกับผู้ที่อยู่ในช่วงวัยทองเพื่อช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารได้อย่างครบถ้วนและสมดุล
aufarm-logo

เราจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสมุนไพรในราคาย่อมเยา และมีคุณภาพจากโรงงานที่ทันสมัย  ปลอดภัย น่าเชื่อถือ และตรวจสอบได้

Copyright © 2020 Aufarm / All rights reserved.

เมนูหลัก