เบาหวานในขณะตั้งครรภ์ เป็นความผิดปกติของการเผาผลาญคาโบไฮเดรตและการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายในขณะที่ตั้งครรภ์ และยังสามารถเกิดขึ้นได้ทุกระยะของการตั้งครรภ์ ทำให้เสี่ยงหรือมีโอกาสเกิดภาวะครรภ์เป็นพิษที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคุณแม่ตั้งครรภ์และทารกได้
เบาหวานขณะตั้งครรภ์ คือ
เบาหวานขณะตั้งครรภ์เป็นภาวะที่คุณแม่ตั้งครรภ์มีระดับน้ำตาลในเลือดสูง เนื่องจากร่างกายไม่สามารถผลิตอินซูลินได้เพียงพอ ทำให้น้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติโดยทั่วไปมักพบภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์ในช่วงเวลาครึ่งหลังของการตั้งครรภ์
ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์
- ขณะตั้งครรภ์คุณแม่มีอายุมากกว่า 35 ปี หรืออายุน้อยกว่า 16 ปี
- คุณแม่ตั้งครรภ์ มีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน หรือโรคแพ้ภูมิตัวเองอยู่ก่อนแล้ว
- มีประวัติคนในครอบครัวของคุณแม่ตั้งครรภ์เป็นเบาหวาน เช่น พ่อหรือแม่ เป็นเบาหวาน
- คุณแม่มีน้ำหนักมากหรืออ้วนมาตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์
- คุณแม่ตั้งครรภ์มีคลอเลสเตอรอลในเลือดสูง
- คุณแม่ตั้งครรภ์มีประวัติเป็นเบาหวานระหว่างตั้งครรภ์มาก่อน
เบาหวานขณะตั้งครรภ์ กับผลกระทบต่อมารดาและทารกในครรภ์
- ระดับน้ำตาลกลูโคสในกระแสเลือดที่สูงมากของคุณแม่ตั้งครรภ์ อาจกระตุ้นให้ตับอ่อนของทารกผลิตอินซูลินเพิ่มมากขึ้น เป็นสาเหตุให้ทารกมีขนาดตัวใหญ่กว่าปกติ ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการคลอด
- เสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนด อาจคลอดในช่วงอายุครรภ์น้อยกว่า 37 สัปดาห์
- เด็กอาจตัวเหลือง เพราะระดับน้ำตาลในเลือดที่ต่ำอาจส่งผลให้ทารกเกิดภาวะตัวเหลืองหลังคลอด ซึ่งทำให้ต้องรับการรักษาต่อในโรงพยาบาล
- คุณแม่อาจเสี่ยงต่อภาวะน้ำคร่ำมาก เพราะปริมาณน้ำคร่ำในมดลูกที่มากเกินไปอาจก่อให้เกิดภาวะคลอดก่อนกำหนด และอาจเกิดปัญหาอื่น ๆ ขึ้นในระหว่างคลอดได้
- เพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะครรภ์เป็นพิษ ซึ่งอาจเกิดอันตรายร้ายแรงต่อทั้งแม่และทารกในครรภ์
- คุณแม่มีโอกาสเป็นเบาหวานอีกครั้งเมื่อตั้งครรภ์ลูกคนต่อไป และอาจป่วยด้วยโรคเบาหวานเรื้อรั้งหลังคลอดได้
อาการเบาหวานขณะตั้งครรภ์
เบาหวานขณะตั้งครรภ์ โดยทั่วไปจะไม่มีอาการใด ๆ แต่คุณแม่ตั้งครรภ์สามารถสังเกตอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นได้ซึ่งจะคล้ายกับอาการของผู้ป่วยเบาหวานเรื้อรัง เช่น รู้สึกหิวกระหายน้ำมากกว่าปกติ ปัสสาวะบ่อย รู้สึกเหนื่อย อ่อนเพลีย และนอนหลับระหว่างวัน
การวินิจฉัยทางการแพทย์
- ตรวจคัดกรอง แพทย์จะสอบถามประวัติคุณแม่ตั้งครรภ์ และบุคคลในครอบครัว พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน และวัดค่าดัชนีมวลกายว่ามากกว่า 30
- การตรวจร่างกายของคุณแม่ตั้งครรภ์ เช่น รูปร่างหรือน้ำหนักตัวหากอ้วนหรือมีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน โอกาสเสี่ยงต่อภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์ก็มีมากด้วย หรือตรวจความผิดปกติของครรภ์ เช่น ครรภ์ใหญ่กว่าปกติ
- ตรวจทางห้องปฏิบัติการ ได้แก่ ตรวจเพื่อหาน้ำตาลในปัสสาวะ การตรวจหาระดับน้ำตาลในกระแสเลือด โดยวิธี OGTT
การรักษาเบาหวานขณะตั้งครรภ์
เบาหวานขณะตั้งครรภ์ เป็นภาวะที่ยังไม่มีแนวทางการรักษาที่ชัดเจนเนื่องจากยังไม่มีข้อสรุปเรื่องเกณฑ์การวินิจฉัยที่เหมาะสม รวมทั้งยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับระดับน้ำตาลในระหว่างตั้งครรภ์ที่ส่งผลต่อมารดาและทารก คุณแม่ที่มีภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์ จำเป็นต้องควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดเพื่อสุขภาพของตนเองและทารกในครรภ์ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนทั้งขณะตั้งครรภ์และขณะคลอด โดยมีแนวทางในการรักษาภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์ ดังนี้
- ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด จุดมุ่งหมายหลักของการดูแลรักษาภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์ในปัจจุบันคือพยายามควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของของคุณแม่ตั้งครรภ์ให้ใกล้เคียงปกติมากที่สุด
- การควบคุมอาหาร แพทย์จะแนะนำให้คุณแม่ที่มีภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารด้วยการบริโภคผัก ผลไม้ และธัญพืช เพื่อช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
- การออกกำลังกาย เป็นองค์ประกอบสำคัญในการควบคุมโรคเบาหวาน โดยเลือกการออกกำลังกายที่เหมาะสมอย่างสม่ำเสมอ เช่น การออกกำลังกายที่แขนทั้งสองข้าง
- ฉีดอินซูลิน หากระดับน้ำตาลในเลือดยังคงสูงอยู่หลังปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารและออกกำลังกายมาระยะหนึ่งแล้ว แพทย์อาจแนะนำให้ผู้ป่วยใช้ยาฉีดอินซูลิน เพื่อลดระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับปกติ
- การดูแลอย่างใกล้ชิดจากแพทย์ โดยการตรวจสุขภาพของทารกในครรภ์มากเป็นพิเศษด้วยการอัลตราซาวด์ และอาจตรวจเพิ่มเติมเพื่อดูพัฒนาการของทารกในครรภ์ว่ามีการเจริญเติบโตตามปกติหรือไม่
การปฏิบัติตัวเมื่อมีภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์
- เมื่อได้รับการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์และพบว่ามีภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์ หลังการฝากครรภ์แพทย์จะให้คำแนะนำวิธีดูแลตนเอง คุณแม่ตั้งครรภ์ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ อย่างเคร่งครัด
- ควบคุมอาหารให้ถูกสัดส่วนและรับประทานอาหารให้ถูกเวลา เช่น
- ลดอาหารจำพวก แป้งหรือน้ำตาล และเลือกทานข้าวซ้อมมือแทนข้าวขาว
- เพิ่มอาหารจำพวกโปรตีน เนื้อสัตว์ที่มีไขมันต่ำ
- รับประทานผักผลไม้หลากหลายชนิด เน้นที่มีกากใยสูง
- เลือกดื่มนมสดชนิดจืด และพร่องมันเนย
- หลีกเลี่ยงของหวาน และผลไม้ที่มีรสหวานจัด
- งดอาหารรสจัด เช่น เค็มจัด หวานจัด หรือเผ็ดจัด
- หลีกเลี่ยงขนมขบเคี้ยว อาหารประเภททอดหรืออาหารผัดที่ใช้น้ำมันมาก ๆ
ภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์เป็นปัญญาสุขภาพของคุณแม่ตั้งครรภ์ ที่อาจส่งผลกระทบทั้งมารดาและทารกในครรภ์ได้ แต่หากได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้องและได้รับการดูแลรักษาที่เหมาะสมตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ ก็จะสามารถช่วยป้องกันการลดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงต่าง ๆ
-
฿990.00
฿2,770.00Cordy Plus (60 แคป) แถมเห็ดหลินจือแดงสกัด
฿990.00฿2,770.00 -
฿790.00
฿1,380.00เห็ดหลินจือแดงสกัด (250 มก.) 1 กล่อง แถมชาเห็ดหลินจือ 1 กล่อง
฿790.00฿1,380.00 -