ตาแห้งเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้ทุกวัย มักเกิดพร้อม ๆ กันทั้ง 2 ข้าง ทำให้รู้สึกไม่สบายตา ซึ่งนานวันเข้าก็จะส่งผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวันและการทำงาน หากไม่ป้องหรือดูแลรักษาอย่างถูกวิธี เมื่ออาการรุนแรงมากขึ้นอาจลุกลามถึงขั้นสูญเสียสายตาอย่างถาวรได้ วิธีดูแลเบื้องต้นเมื่อเกิดอาการตาแห้งคือการใช้น้ำตาเทียม มาดูกันว่าอาการตาแห้งและข้อควรระวังในการใช้น้ำตาเทียมนั้นต้องทำอย่างไร ?
อาการตาแห้ง คืออะไร ?
อาการตาแห้งคืออาการที่ดวงตามีน้ำตามาหล่อเลี้ยงน้อยและไม่เพียงพอ เมื่อเกิดอาการตาแห้งก็จะทำให้เกิดอาการแสบตา ระคายเคืองตา คันตา หรือบางรายมีอาการตาแฉะ เป็นเพราะน้ำตาที่หลั่งออกมามีคุณภาพไม่ดีพอ จึงทำให้มีการหลั่งน้ำตาออกมาหล่อเลี้ยงดวงตาอยู่ตลอดเวลา
สาเหตุของอาการตาแห้ง
อาการตาแห้ง เป็นอการของโรคที่เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น
- เกิดจากการเป็นภูมิแพ้สิ่งต่าง ๆ ภายนอก เช่น ควันบุหรี่ อากาศเป็นพิษ ฝุ่นละออง
- เกิดจากสิ่งที่กระทบดวงตาจากภายนอก เช่น อยู่ในสถานที่ที่มีลมแรง แดดแรง การดูโทรศัพท์ จ้องคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ๆ
- เกิดจากสภาวะวัยทอง ซึ่งเป็นช่วงวัยที่ร่างกายผลิตน้ำได้น้อยเกินไป รวมถึงการดื่มน้ำที่ไม่พียงพอต่อวัน
- เกิดจากการที่เปลือกตาปิดไม่สนิท หรือการกระพริบตาที่น้อยเกินไป
- ผลข้างเคียงของการใช้ยาบางชนิด เช่น ยาแก้ภูมิแพ้ ก็จะทำให้การผลิตน้ำตาทำได้น้อยลง
- เป็นโรคบางชนิดที่มีผลต่อการผลิตน้ำตาของร่างกาย เช่น โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ โรคของหลอดเลือด
อาการเริ่มต้นของภาวะตาแห้ง
- ระคายเคืองตา แสบ คัน ปวดตา ตาแดง มีเมือกเหนียวหรือมีขี้ตา ตาแฉะหรือมีการผลิตน้ำตามากขึ้นแต่ก็ไม่สามารถทำให้ตาหายแห้งหรือหายระคายเคืองได้
- สายตามีความไวต่อแสงมากกว่าปกติ
- รู้สึกเสียด ระคายเคืองเหมือนมีอะไรอยู่ในดวงตา กระพริบตาไม่สะดวก
- หากจะต้องใส่คอนแทคเลนส์จะใส่ได้ยาก
- การขับรถในเวลากลางคืนทำได้ยาก
- มีอาการล้าสายตา หรือเห็นภาพไม่ชัดเบลอ รู้สึกอยากหลับตา
วิธีดูแลรักษาและป้องกันอาการตาแห้ง
การดูแลตนเองทำได้ไม่ยาก หากเป็นกรณีที่มีอาการตาแห้งไม่รุนแรงหรือเป็นเรื้อรัง ก็สามารถทำได้ด้วยการใช้น้ำตาเทียมหรือยาหยอดตา แต่ในรายที่เป็นรุนแรงและเรื้อรังจำเป็นต้องไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุเพื่อทำการรักษา รวมทั้งจะต้องจำกัดปัจจัยต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดตาแห้งได้ โดยการรักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้เกิดตาแห้ง เช่น หากเกิดจากการโดนลมก็จะต้องหลีกเลี่ยง เกิดจากการใช้ยารักษาโรคบางชนิด แพทย์ก็อาจจะต้องเปลี่ยนการใช้ยานั้น ๆ หรือหากเกิดจากการที่เปลือกตาปิดไม่สนิท แพทย์อาจจำเป็นต้องให้เข้ารับการผ่าตัดแก้ไขเปลือกตา
น้ำตาเทียม และการหยอดน้ำตาเทียม
ตาแห้งหากอาการไม่รุนแรง ผู้ที่เป็นสามารถใช้น้ำตาเทียมหยอดตารักษาบรรเทาอาการโดยไม่ต้องไปพบแพทย์ จัดว่าเป็นวิธีการรักษาเบื้องต้นที่ทำได้ดีที่สุด เนื่องจากน้ำตาเทียมเป็นสารหล่อลื่นที่มีคุณสมบัติคล้ายน้ำตาจริงจากธรรมชาติ ใช้รักษาอาการตาแห้ง ลดอาการระคายเคืองในลูกตา หรือใช้เป็นสารหล่อลื่นช่วยขณะใส่คอนแทคเลนส์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งหาซื้อง่ายราคาไม่แพง โดยน้ำตาเทียมถูกจัดให้เป็นยาที่ใช้ภายนอก สามารถใช้ได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งจากแพทย์ แบ่งออกได้ 3 ชนิดดังนี้
- แบบสารละลายไม่ใส่สารกันเสีย บรรจุอยู่ในรูปแบบของแพกเกตเล็ก ๆ เป็นกระเปาะ
- แบบสารละลายที่ใส่สารกันเสีย บรรจุอยู่ในรูปแบบของหลอดและขวด ใช้ได้ 1 เดือนหลังจากเปิดใช้แล้ว
- แบบสารละลายเป็นเจล โดยมีสารละลาย โพลีไวนิลแอลกอฮอล์ คาร์บอกซิเมทิล เซลลูโลส ไฮโปรเมลโลสและโซเดียมไฮยาลูโรเนตเป็นสารประกอบหลัก
ข้อควรระวังในการใช้น้ำตาเทียม
- หากเป็นผู้ที่มีประวัติว่าเคยแพ้น้ำตาเทียม ก็ควรหลีกเลี่ยงหรือปรึกษาจักษุแพทย์ก่อนการใช้
- เพื่อป้องกันการติดเชื้อหรือปนเปื้อนเชื้อโรค ขณะหยอดน้ำตาเทียมควรระวังไม่ให้ปลายหลอดสัมผัสกับลูกตา หรือส่วนอื่นๆของร่างกาย
- หลังการหยอดตาด้วยน้ำตาเทียมหากมีอาการผิดปกติใด ๆ เช่น มีอาการตาแห้งแบบรุนแรงขึ้น ระคายเคืองมากขึ้น ควรรีบไปพบจักษุแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรับการรักษาด้วยวิธีที่ถูกต้องต่อไป
- น้ำตาเทียมแบบชนิดที่ใส่สารกันเสีย หากจะต้องใช้ร่วมกับคอนแทคเลนส์จะต้องถอดคอนแทคเลนส์ออกก่อน เพราะจะทำให้คอนแทคเลนส์เปลี่ยนสีหรือทำลายเยื่อบุตาจนเป็นอันตรายได้
- การใช้น้ำตาเทียมร่วมกับยาชนิดอื่น ควรเว้นระยะห่างกันประมาณ 10 นาที
- ห้ามนำน้ำตาเทียมที่หมดอายุมาใช้ เมื่อเปิดใช้แล้วต้องทิ้งภายใน 1 เดือน
- ควรเก็บน้ำตาเทียมไว้ในอุณหภูมิห้อง หรือแช่เย็นไว้ที่อุณหภูมิ 15–30 องศาเซลเซียสเท่านั้น
ตาแห้งเป็นอาการที่สามารถป้องกันได้หลายวิธี ได้แก่ การใส่แว่นตาที่มีเลนส์ป้องกัน พักสายตาจากการเล่นโทรศัพท์มือถือหรือจากจอคอมพิวเตอร์ รวมทั้งมีการบริหารดวงตาบ้าง เมื่อมีอาการตาแห้ง ไม่ควรขยี้ตาเพราะอาจเสี่ยงทำให้ตาแดง ตาอักเสบ ซึ่งเป็นอันตรายต่อดวงตา ควรใช้น้ำตาเทียมหยอด เพื่อรักษาและบรรเทาอาการเบื้องต้นจะดีที่สุด หากอาการไม่ดีขึ้นก็ควรรีบไปพบจักษุแพทย์เพื่อวินิจฉัยและทำการรักษาต่อไป
-
฿690.00
฿1,180.00Multi Complex 7 Berry 1 กล่อง แถม 1 กล่อง
฿690.00฿1,180.00 -
฿990.00
฿1,770.00Multi Complex 7 Berry 2 กล่อง แถม 1 กล่อง
฿990.00฿1,770.00 -
฿1,390.00
฿2,950.00Multi Complex 7 Berry 3 กล่อง แถม 2 กล่อง
฿1,390.00฿2,950.00